รอยรักในแรงสาป - นิยาย รอยรักในแรงสาป : Dek-D.com - Writer
×

    รอยรักในแรงสาป

    เมื่อความรักของเค้าและเธอมาพร้อมกับคำสาป พวกเค้าจะทำอย่างไร

    ผู้เข้าชมรวม

    434

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    434

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  23 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ธ.ค. 66 / 22:14 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "ข้าขอให้เจ้าทุกข์ทรมาร ขอให้เจ้าอย่าได้เจอรักแท้ ขอให้เจ้าโดดเดี่ยวเดียวดาย จะตายก็ไม่ตาย ขอให้ความรักของเจ้าไม่สมหวังและขอให้เจ้าจงอยู่กับคำสาปนี้จนกว่าข้าจะเป็นคนปลดปล่อยเจ้า​  นราวดี"

    "ฮือๆๆๆๆๆไม่น่ะเจ้าคะ"

    "ไม่!!!!!!!..................."

    ราม ชายหนุ่มในวัย 25 ตกใจตื่นพร้อมกับความฝันที่คอยตามหลอกหลอนเค้ามานาน แต่ถึงจะนานแค่ไหนเค้าก็ไม่เคยชินกับมันเลยสักครั้ง 

    "เฮ้อ ช่วงนี้ฝันบ่อยจังวะ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วเธอเป็นใคร นราวดี" ผมพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วก็ต้องสลัดความคิดทิ้งไปเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังมาจากโต๊ะที่อยู่หัวเตียง กดปิดนาฬิกาแล้วลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าหัองน้ำจัดการธุระส่วนตัว เสร็จแล้วเดินลงมาชั้นล่างของบ้าน

    "บริษัทเป็นยังไงบ้าง" ถามน้องสาวที่ทำหน้าที่ดูแลบริษัทต่อจากตัวเองหลังจากที่วางมือแต่มีเข้าไปดูบ้าง

    "ก็ดีค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" หันมาตอบพี่สาวด้วยใบหน้ายิ้ม

    "พี่บอกแล้วว่าเธอทำได้ เธอเก่งอยู่แล้ว" พูดชมน้องสาวคนเดียวด้วยสายตาภูมิใจ

    "กว่าจะได้ก็หนักเอาการเหมือนกันน่ะคะพี่โฉม นี่ถ้าหลานเรียนบริหารแล้วมาช่วยงานบริษัท น้องว่าบริษัทเราคงจะดีกว่านี้" บ่นน้อยใจให้กับหลานชายที่ไม่ยอมเรียนสายงานที่เกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัว

    "ปีนี้หลานก็เรียนจบแล้วนิ ใช่มั่ยค่ะ" หันไปถามพี่สาวที่กำลังปอกผลไม้

    "ใช่จ้ะ" 

    "ทำไมตารามถึงสนใจเกี่ยวกับเมืองเก่าเมืองโบราณก็ไม่รู้น่ะคะ พิใลเห็นชอบมาตั้งแต่เด็ก ไม่คิดว่าโตขึ้นแล้วหลานจะยังสนใจอยู่ บอกให้เรียนบริหารก็ไม่ยอม จะได้มาช่วยงานที่บริษัท"​

    "เมื่อถึงเวลาเค้าจะรู้เอง ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว"จู๋ๆโฉมฉายก็นึกถึงคำพูดของพระที่เธอเคารพนับถือ

    "พิใล" เรียกน้องสาวด้วยน้ำเสียงกังวล

    "คะ?" หันไปตามเสียงเรียกของพี่สาว

    "จำเรื่องที่หลวงตาบอกเราเมื่อ15 ปีก่อนได้มั้ย"

    15 ปีก่อน

    "เราจะไปไหนกันครับแม่" เสียงเด็กชายหน้าตาน่ารักเอ๋ยถามแม่ขณะกำลังเดินไปขึ้นรถ

    "เราจะไปทำบุญให้คุณพ่อกันจ้ะ รามอยากไปมั้ยลูก" หันมาถามลูกชายที่ยืนถือถุงขนมอยู่ในมือ

    วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพ่อเค้า ฉันจะพาเค้าไปทำบุญทุกปี

    "อยากครับ รามคิดถึงพ่อ" พูดจบแววตาเด็กน้อยก็เศร้าลงทันที

    "รามครับ" เรียกชื่อลูกชายแล้วเดินมานั่งลงพร้อมจับที่ใหล่ลูกชายเบาๆ"

    "คุณพ่อก็อยู่กับเราตลอดนี่ครับ" เด็กน้อยทำหน้าสงสัยกับคำพูดของแม่โฉมฉายยกยิ้มขึ้นให้กับความใสซื่อของลูกชาย 

    "อยู่ตรงนี้ใงครับ" พูดพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกด้านซ้ายของลูกชาย รามยิ้มตอบเหมือนเข้าใจที่แม่บอก

    "ไปครับ เราไปรับน้าพิใลแล้วไปหาคุณพ่อกัน"

    "ครับ" ตอบรับแม่แล้วเดินไปขึ้นรถอีกฝั่ง

    หลังจากทำบุญเสร็จโฉมฉายก็เกิดความสงสัย

    "พี่โฉมค่ะ ทำไมหลวงพ่อมองหลาน  แบบนั้นล่ะคะ" กระซิบถามพี่สาวเมื่อเห็นความผิดปกติตรงหน้า

    คงไม่ใช่แค่เธอเสียแล้วที่สงสัย

    "มีอะไรรึเปล่าคะหลวงพ่อ" ไม่รอช้าถามหลวงพ่อที่นั่งมองลูกชายตัวเองที่นั่งเล่นของเล่นอยู่

    "เมื่อถึงเวลาโยมก็จะรู้เอง ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว" โฉมฉายขมวดคิ้วหันมองหน้าพิใลพร้อมกับเก็บความสงสัยใว้ 

    ปัจจุบัน

    "มันถึงเวลาแล้วเหรอพี่" ถามพี่สาวที่มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด​​​​

    "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ช่วงนี้ตารามฝันแปลกๆบ่อย หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องร้ายนะ" พูดกับตัวเองเบาๆแต่ในใจนั้นมีแต่ความกังวล

    "คุยอะไรกันครับสาวๆสีหน้าเคร่ง เครียดเชียว" ถามผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันที่โต๊ะอาหาร

    "แหม่ มาถึงก็ปากหวานเลยนะจ้ะหลานน้า" เอ๋ยทักหลานชายพร้อมกับยิ้มให้อย่างเอ็นดู แล้วหันไปมองหน้าพี่สาว

    "สวัสดีครับน้าพิใล"

    "ใหว้พระเถอะจ้ะ"

    ยกมือใหว้น้าสาวที่ผมรักและเคารพเหมือนแม่คนนึง หลังจากที่พ่อเสียก็มีน้าพิใลนี่แหละที่ช่วยดูแลผม เวลาแม่ไม่ว่างหรือไปทำงานผมจะอยู่กับน้าพิใล เมื่อก่อนแม่ทำงานหนักมาก วันนึงแทบจะไม่ค่อยเจอกันเลย จนเมื่อผมป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลแม่ก็สัญญากับผมว่าจะพยายามทำให้บริษัทกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วจะวางมือให้น้าพิใลเป็นคนดูแลต่อ

    "ว่าใงครับ ตกลงคุยรัยกันอยู่" ผมถามพลางหยิบผลไม้เข้าปาก

    "ก็คุยไปเรื่อยตามประสาคนแก่แหละลูก แล้วนี่ลูกจะไปมหาลัยแล้วเหรอ" ถามลูกชายที่แต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา

    "ครับ ใกล้จะจบแล้ว มีหลายอย่างที่ต้องทำ"

    "งั้น มา มากินข้าวต้มก่อนน้าเอามาฝาก นี่น้าทำเองเลยนะ เดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย" พิใลพูดพร้อมกับจัดการตักข้าวให้หลานชาย

    "นี่จ้ะ ทานเยอะๆน้า"

    "ขอบคุณครับ" หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็ออกจากบ้าน

    "ไอ้รามทางนี้โวย" เคยกมือทักเพื่อนที่กำลังเดินมา

    "ทำไมมาช้าจังวะ" 

    "ช้าอะไรเหลืออีกตั้ง 10 นาที" ตอบเพื่อนพร้อมก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือ​

    "เออๆ ไปเร็วอาจารย์รออยู่"

    "เดี่ยวไอ้เค แล้วไอ้โดมละ" ถามเพื่อนพร้อมกวาดสายตามองหาเมื่อเห็นว่าเพื่อนยังมาไม่ครบ

    "ช่างมันเหอะ กูโทรไปหลายสายไม่รับสงสัยยังไม่ตื่น เดี๋ยวมันตามมาเองแหละ ไอ้นุมึงจะนั่งอยู่อีกนานมั้ย แนน ออม ไปเร็ว!" แล้วทั้งหมดก็เดินตามเคออกไป

    "เฮ้อ ใกล้จบกูว่าจะสบายที่ไหนได้ เหนื่อยว่ากว่าเดิมอีก"

    "เหนื่อยฉิบหาย" โดมพูดเสริมพร้อมโยนสมุดลงบนโต๊ะ"

    "พวกนายจนบ่นอะไรนักหนาอีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะจบแล้ว จะเลิกบ่นได้ยัง บ่นอยู่ได้ รำคาญ!"

    "แนน เธอหิวใช่มั่ย" นุถามเพื่อนที่อยู่ๆก็อารมณ์เสีย และไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้คนอย่างแนนอารมณ์เสียได้นอกจากเรื่องกิน

    "นี่พวกนายยังไม่ชินอีกเหรอ" 

    "ชินกับผีสิยายออม ไม่ชินโว้ย" โดมพูดพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะด้วยท่าทางเซ็งๆ

    "แล้วจะไปกินมั่ยข้าวอะ เร็ว! หิว!" พูดจบแนนก็เดินออกไปไม่รอให้เพื่อนพูดต่อ

    "กูบอกแล้วว่ามันหิว" นุหันไปพูดกับเพื่อนที่ยืนมองแนนที่ดำลังเดินออกไป

    "แล้วมึงอะไอ้ราม จะไปกินข้าวกับพวกกูมั่ย" ถามเพื่อนที่มัวแต่กดโทรศัพท์

    "คงไม่ว่ะ แม่กูตามบอกว่ามีธุระ"

    "เออ งั้นแยกกันตรงนี้ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย" แล้วเคก็เดินตามเพื่อนออกไป

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น